หลังจากที่ได้มีข่าวออกมาว่าทางรัฐบาลได้มีการปล่อยนโยบายใหม่มาเอาใจประชาชนด้วยการเปย์เงินคนละ1,500 บาทเพื่อเอาไปท่องเที่ยว สำหรับนโยบายนี้ได้ออกมาเพื่อให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยที่จะมองไปก็คล้าย ๆกับหลายประเทศที่ก็ได้มีนโยบายนี้เช่นเดียวกันแต่ในเรื่องนี้บางส่วนกลับมีการมองว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่ ส่วนของประเทศอื่น ๆ นั้นเขาได้มีวิธีการแจกเงินกันอย่างไรที่จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว
ถ้าจะให้มองถึงประเทศอื่นนั้นเขาจะมีการแจกเงินแต่ไม่ได้เป็นการแจกฟรีแต่จะมีเงื่อนไขที่เรียกว่า “ Conditinal Cash-transfer Program” หรือการโอนแบบมีเงื่อนไขอย่างเช่นในประเทศกัมพูชา สำหรับในครอบครัวที่มีรายได้น้อยก็จะได้รับเงินสนับสนุนแต่จะมีเงื่อนไขที่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการพัฒนาการศึกษาของเด็กซึ่งเด็กที่สอบผ่านเกณฑ์ถึงจะได้รับเงินหรือในประเทศบราซิล
รัฐมีนโยบายให้เงินช่วยเหลือคนยากจนแต่มีเงื่อนไขคือจะต้องส่งลูกเข้าโรงเรียนด้วยสัดส่วนเวลา 85% ของเวลาเรียนทั้งหมดและยังต้องมีการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอยู่อย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งทำให้มองว่าการโอนเงินแบบที่มีเงื่อนไขนี้จะเป็นการที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนที่มีรายได้น้อยดีขึ้นแถมยังจะช่วยลดพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะก่อให้เกิดความยากจนได้
สำหรับเรื่องนี้ก็ทำให้มีเหล่านักวิชาการต่าง ๆ ได้มีการเสนอแง่มุมที่จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ ได้แก่ รัฐเองจะต้องมีการตั้งมาตรการที่จะเป็นไปในรูปแบบของการบังคับให้ผู้ที่มีรายได้น้อยพยายามหางานทำ เสริมสร้างรายได้ไปด้วย
ทางรัฐบาลก็ควรที่จะมีการประเมิณว่าผู้ที่มี่รายได้น้อยนั้น มีการช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับการสร้างรายได้ที่เหมาะสมหรือไม่ หรืออาจจะเปลี่ยนมาเป็นการช่วยในเรื่องของการจัดหาช่องทางการสร้างรายได้ เพิ่มทักษะแรงงานหรือจะเป็นการสร้างช่องทางในการสร้างอาชีพที่มองว่าจะผู้ที่มีรายได้น้อยจะสามารถเติบโตขึ้นได้ด้วยตัวเอง